คาสโนวาพ่อลูกอ่อน นามปากกา รามิลยา (มือ1 สภาพเก่าตามกาลเวลา)
อยู่ๆ เฟดเดอริก โดรอเรท หนุ่มคาสโนวาตัวพ่อของวงการก็ต้องกลายเป็นคุณพ่อมือใหม่โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เมื่อมีคนเล่นพิเรนทร์นำ จอร์จ เด็กทารกวัยแปดเดือนกว่า ที่ทั้งขาวทั้งอวบจนกลมมนไปเสียทุกสัดส่วนมาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านพักของเขา พร้อมกับข้อความที่ระบุว่า ‘เขาคือพ่อของเด็ก’ ปฏิบัติการตามหา ‘แม่ของลูก’ จึง เริ่มขึ้น และเมื่อเขาได้เห็นหน้าแม่ของลูกชัดๆ เต็มสองตา ก็คิดจะจับเธอขังไว้ในกรงทองให้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียวทันที ทว่าทุกอย่างกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อเธอกลับกำลังเข้าพิธีวิวาห์กับชายอื่น!
เพราะความจำเป็น อลิเซีย บรู๊ค จึงต้องตอบตกลงแต่งงานกับเศรษฐีหนุ่มใหญ่ชาวฝรั่งเศส และจำเป็นต้องเอา จอร์จลูกชายสุดที่รักที่ได้มาเพราะความไม่ตั้งใจในค่ำคืนหนึ่งไปทิ้งให้ เฟดเดอริก ผู้เป็นพ่อเลี้ยงดูแทน ทว่าไปๆ มาๆ เธอกลับถูกเขา ‘ฉุด’ มาทำเมีย (อีกครั้ง) ครั้นจะหนีก็ไม่ได้ จะอยู่ต่อหรือก็ลำบากใจเพราะ ยิ่งนานวันหัวใจไม่รักดีก็เอาแต่เอนๆ เอียงๆ ไปหาเขา ทั้งๆ ที่ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้วเชียว ว่าอย่างไรก็จะไม่รักผู้ชายคนนี้เด็ดขาด!
“ฉันกำลังฝันเหรอคะ”
“อืม…” เฟด เดอริกครางรับขณะกำลังชื่นชมร่างบาง เขาแอบมอง แอบชื่นชมมานานหลายวัน แต่ไม่มีโอกาสเข้าถึงเนื้อถึงน้ำขนาดนี้ แล้วเขาก็ต้องสะดุ้งเมื่อฝ่ามือเล็กๆ เหวี่ยงเข้ามาทักทายใบหน้าหล่ออย่างจัง
เผียะ!
“เจ็บไหม” เจ้าของมือตบถามเสียงซื่อ หน้าตาท่าทางของเธอเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่น ทำให้เฟดเดอริกเริ่มนึกสนุก
“อุ๊ย! ไม่เจ็บ ไม่เจ็บเลย”
“งั้นก็ฝันจริงๆ สินะ” เธอสรุปเบาๆ ไม่ทันเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนตัวโต
“ใช่! ฝัน!” เขา ยืนยันเสียงดังให้ดูจริงจัง น่าเชื่อถือ แล้วก็แอบกลั้นหัวเราะ ไม่นึกเลยว่าความง่วงจัดจะทำให้แม่ของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเป็นไปได้ถึง เพียงนี้
‘เอ…หรือว่าเธอจะเป็นไข้วะ’
เฟดเดอริกทดสอบสมมุติฐานของตนเองด้วยการวางมือลงไปบนหน้าผากของเธออย่างรวดเร็ว ก่อนจะถูกเธอดึงมือออก แล้วย้ายมาแนบแก้มนุ่มแทน
“กี่โมงกี่ยามแล้วคะเนี่ย”
“ตีห้า” เขา ตอบออกไป แล้วเลื่อนลงมาที่หน้าอกหน้าใจไซส์เบ้อเริ่มของเธอ ซึ่งจากการลอบสำรวจมาหลายครั้ง ทำให้รู้ว่านี่คือของแท้แม่ให้มาและมันทำให้เขาภูมิใจนัก
“เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงสินะ”
“ครับ?” เขา เงยหน้ามองคนสวยอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดเธอต้องทำหน้าเคร่งเครียดอย่างนั้น ปกติเธอก็ตื่นนอนตอนเจ็ดโมงเช้าเป็นประจำ ไม่เห็นจะมีอะไรให้น่ากังวล
“จะพอไหม”
“หืม…”
“คือว่าเราจะ…รักกันพอไหมคะ” คนสะลึมสะลือพูดออกมาแล้วก็หน้าแดง จมูกแดง เขินอาย แต่มือกลับเอื้อมไปสัมผัสแตะต้องร่างกำยำอย่างอยากรู้อยากลอง!