ณ บ้านวรรณกรรม หนังสือ เรื่อง โสมส่องแสง / โรสลาเรน
รายละเอียด
ชื่อเรื่อง:โสมส่องแสง
นวนิยายที่เกี่ยวข้อง (ควรอ่านต่อเนื่อง):
(1) โสมส่องแสง
(2) รอยอินทร์
บทประพันธ์โดย โรสลาเรน
ประเภท: โรแมนติก/การเมือง
ปกอ่อน สองเล่มจบ
จำนวนหน้า: 576 หน้า
Edition: 8th (09/2558)
ISBN: 978-616-214-4905
นิยายสู่ละคร: ปี 2537 (ช่อง 3)
เรื่องย่อ
เมืองเวียงสรอง เมืองที่เคยมีแต่ความสงบสุขแต่บัดนี้ได้หายไป เมื่อคนใกล้ชิดของ เจ้าหลวง ได้ร่วมมือกับต่างชาติเพื่อโค่นล้มระบบการปกครอง และทำให้เจ้าหลวงโดนจับไปกักขังใว้ในคุกมืดโดยมี เจ้านางน้อย พยายามจะพาพ่อหนีไปสมทบกับพี่ชาย รอยอินทร์ ที่ชายแดน แต่พ่อของเธอไม่ยอมหนีจึงให้เจ้านางน้อยปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อหนีไปสมทบกับรอยอินทร์คนเดียว
ระหว่างเดินทาง เจ้านางน้อยได้พบกับ ภูริต ซึ่งเจ้านางน้อยไม่รู้ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายตน เขาหนีการตามล่าอยู่เช่นกันจึงทำให้ทั้งสองได้เดินทางไปชายแดนด้วยกัน เจ้านางน้อยแนะนำตัวเองว่าชื่อ เลอทรวง ซึ่งทำให้ภูริตคิดว่าเป็นผู้ชายและเรียกเจ้านางน้อยว่า เจ้าจ้อย ทั้งสองเดินทางจนมาถึงชายแดนที่รอยอินทร์อยู่ ภูริตได้ถูกแยกไปรักษาตัวเนื่องจากบาดเจ็บ ภูริตจึงไม่ได้เจอหน้าเจ้าจ้อยอีกเลย จนกระทั่งภูริตได้รับคำสั่งให้ไปรายงานสถานการณ์ที่ฝั่งไทย ภูริตก็ได้เจอกับเจ้าจ้อยจึงพาเจ้าจ้อยมาเที่ยวกรุงเทพฯ ด้วยกัน แต่แล้วเช้าวันที่สองเขาก็ได้เรื่องให้ไปช่วยรอยอินทร์ และเมื่อหลังจากเดินทางมาถึงที่พัก รอยอินทร์ได้แนะนำให้ภูริตได้รู้จักน้องสาวเขา เขาถึงได้รู้ว่าเจ้าจ้อยของเขาก็คือเจ้านางน้อยของเวียงสรอง ทำให้ภูริตรู้ว่าตนโดนหลอก และนั้นก็ทำให้เขาสับสนเป็นอย่างมาก
คำนำ
นี่คือเรื่องราวบนหัวใจใสๆ ที่สว่างไสวและเดียงสาบริสุทธิ์ของ ‘เจ้านางน้อยรอยคํา’ ซึ่งผูกพันกับนายทหารไทย ‘ผู้พันภูริต’
สุภาพบุรุษนักรบที่หลายคนตั้งคําถามเสมอว่า...
เขาเป็นใคร ทําไมต้องมารบเพื่อเวียงสรอง?
ทว่าใครบ้างที่รู้...ทุกลมหายใจของเขามีเพื่อนตาย ชื่อ ‘เจ้ารอย’ เสมอ เพื่อนของเขา...เจ้ารอย! รอยอินทร์แห่งเวียงสรอง
หากเมื่อเวียงสรองล่ม เสด็จพ่อของเจ้ารอยคือเจ้าหลวงแห่งเวียงสรอง กําลังจะถูกประหารชีวิต! ภูริตคือเพื่อนตาย...ที่อาสาเข้าเวียงสรอง เพื่อช่วยเจ้าหลวง
หาก ‘ภาพ’ ที่เห็นกับตา เขาไม่มีวันลืม!
ไม่มีวันบอกเจ้ารอย...ว่าเจ้าหลวงตายอย่างไร!
ไอ้จ้อย...คือเจ้าตัวน้อยใบหน้างดงาม ที่เขาและมันต่างระหกระเหินช่วยพากันออกจากเวียงสรองสู่ชายแดนฐานที่มั่นของ ‘เวียงสรองกู้ชาติ’ ที่เจ้ารอยอินทร์ปักหลักสู้...กู้แผ่นดิน! ครั้งนั้น เขาบอกมัน...
“เอ้านํา..ไปทางไหน?”
เจ้าตัวน้อยชื่อเพราะ แหงนดูท้องฟ้า เล่นเอาคนตัวใหญ่ประหลาดใจ
“มัวดูอะไรอยู่ล่ะ?”
“ดูดาว...”
คนฟังงง ใครจะคิดว่า อีกฝ่ายจะนําทางด้วยวิธีนี้
“ดูเป็นเรอะ?”
“ทําไมจะไม่เป็น ดาวประจําเมืองบ่สุกใส แปลว่า บ้านเมืองยังฮ้อน ทุกขุกเข็ญ...” ไอ้ที่มัน ‘ดู’ ท่าจะเป็นคนละเรื่องเสียแล้ว แต่เขาก็ชอบฟังเสียงใสๆ ของมัน
“ตอนจะมีเรื่อง ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า ขนาดเที่ยงวัน หมอกยังคลุ้ม ทั้งเมืองยังกะเช้ามืด”
ในความสว่างแห่งดวงดาว ตัวมันเล็กน้อย หากดูเถอะ มันคํานึงถึง ‘บ้านเมือง’ ทุกลมหายใจเข้า-ออก
“โหราจารย์ท่านว่า บ้านเมืองจะมืดมน”
เขาวางมือลงบนบ่ามัน บ่าเล็กบางที่เริ่มรู้จักแบกภาระแผ่นดิน คราวนี้มันมิได้สะบัดอย่างถือตัว คงจะเคยคุ้นด้วยแล้วกระมัง
“ความมืดกับความสว่างเป็นของคู่กัน...” เขาปลอบโยน “แต่ก่อนจะถึงแสงสว่าง เราต้องฝ่าฟันผ่านความมืดก่อน ไปเถอะ...เราต้องไปอีกไกล”
เขาออกเดิน มีเด็ก และหมาวิ่งตามหยอย
ดูเถอะ ภาระ...ที่เขารับมาทํา มิใช่ ‘เรื่องนี้’ สักหน่อย เมื่อกลับไปถึง ‘กองกําลังกู้ชาติ’ เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
ทหารเสือ...ปฏิบัติภารกิจไม่สําเร็จ
ได้แต่เด็กกับหมา กลับมา!
หากก็อย่างเจ้าตัวจ้อยสอน ‘เพื่อนต้องไม่ทิ้งเพื่อน!’ และพิสูจน์แล้วว่า ในยามความเป็นความตายมันไม่ทิ้งเขาจริงๆ แล้วเขาจะทิ้งเพื่อนได้อย่างไร
จากบัดนั้น...ความผูกพันเริ่มแนบแน่น
แล้วหัวใจของไอ้จ้อย ‘เจ้านางรอยคํา’ และหัวใจอีกดวงหนึ่งของภูริต ก็ร้อยเข้าเป็นดวงเดียวกัน...หาก ‘เจ้าพี่รอยอินทร์’ คือเจ้าหลวงองค์ต่อไป ที่ต้องเทิดทูนเหนือเกล้า
‘ภูริต’ ก็คือชีวิตของเจ้านางน้อย...รอยคํา!
ข่าว ‘เจ้าหลวงแห่งเวียงสรอง’ สิ้นพระชนม์!
บัดนี้ เจ้ารอยอินทร์-เจ้านางรอยคํา สองพระองค์กอดซบโศกาดูรในความสูญเสียร่วมกัน
เสียยศ เสียฉัตร เสียเมือง!
ไม่มี ‘บ้าน’ จนกว่าจะกวาดล้างทรราชให้หมดจากแผ่นดิน หากไม่มีใครมาสั่งสมความแค้น เลือดนักสู้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร บัดนี้...มิใช่ จนเลือดตากระเด็นหรอกหรือ จึงจับอาวุธขึ้นต่อสู้!
จึงเกิดกองกําลังเวียงสรองกู้ชาติ!
เจ้านางรอยคํา...จะหางามสามโลกก็เหลือหา สมเป็นนางพญาอันสูงส่ง...ในวันหน้ามันจะเป็น ‘นางพญา’ ที่ใดก็ตาม หากสําหรับเขา มันคือ ‘ไอ้จ้อย’ ที่ฝังรอยรักไว้ในหัวใจ
“เมื่อจ้อยมา จ้อยคิดว่าจ้อยจะมาตายกับพี่...พี่ก็จะตายกับจ้อย จะไม่ไปไหนหรอก พี่สัญญาจะไม่มีวันทิ้งจ้อย ทิ้งเจ้าหลวง พอใจไหม”
ประโยคนั้น ยิ่งเสียกว่าปีติใดๆ ประโยคนั้นยิ่งเสียกว่าคํารัก เพราะ...มิใช่หมายแค่ ‘รักเดียว’ หากเขารักแผ่นดิน รักคนทั้งแผ่นดินของจ้อยด้วย
“ถ้าคุณริต...อยู่ที่ไหน จ้อย...ไปหาได้ไหม?”
ภูริตเต็มพื้น มันผูกพันแน่นหนา แต่เขาต้องคอย
มันมีหน้าที่...คนทั้งเวียงสรอง รอมัน!
ถ้าเจ้าหลวงรอยอินทร์ เหมือนดวงสุริยาฉายแสงให้ความอบอุ่นแก่แผ่นดินเวียงสรอง เจ้านางรอยคํา ก็คือดวงจันทร์อ่อนนวลให้ความเย็นตาชุ่มฉ่ำใจ
คนเวียงสรองกําลังเริ่มพลิกแผ่นดิน
เขารักเจ้าจ้อย ต้องรักแผ่นดินของมันด้วย...เพื่อเพื่อน เพื่อรัก ทั้งชีวิต หน้าที่ และความรับผิดชอบ คือคําตอบที่รบอยู่ไม่รู้สิ้น!
อกอุ่น นี้กว้าง แกร่งนักปกปักษ์ รักษา เจ้าได้
ยามทุกข์ ยามมี โพยภัยอุ่นใน อกนี้ อย่ามีเกรง
มีความสุขเสมอกับการอ่าน ‘โสมส่องแสง’ นะครับ แล้วอย่าลืมติดตามอ่านภาคสมบูรณ์ของนวนิยายเรื่องนี้ใน ‘รอยอินทร์’
-
รักชนก นามทอน
บรรณาธิการ
เดือนกันยายน ๒๕๕๘